วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

การออกเดินทางไกล ที่ไม่ได้เตรียมตัว .. _ /+

.. วันนี้ตื่นขึ้นมาแต่เช้า รู้สึกตัวตื่นตอนตี 2 กว่าๆเพราะเข้านอนแต่หัวค่ำ เมื่อรู้สึกตัวตื่นก็คิดถึงแต่เพื่อนที่เพิ่งจากไปเมื่อวันมาฆบูชาวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 

.. พูดถึงเพื่อนนิกรณ์ ปีนี้เราคงอายุเท่ากัน ฉันเกิด พ.ศ.2513 ปีนี้อายุ 49 ปี เมื่อทราบข่าวว่าเพื่อนประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากหลังคาต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อนสนิทของกรแจ้งข่าวนี้ให้ทราบมาทางไลน์ เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเป็นห่วงมีบางคนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลในวันนั้นเราอยากจะไปเยี่ยมให้กำลังใจ แต่ไปไม่ได้เพราะงานยุ่ง จึงได้ไปเยี่ยมหลังเสร็จงานอีกวันหนึ่งคือวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 

.. ฉันไปถึงโรงพยาบาลเวลา 6 โมงเย็น 15 นาทีแล้วก็ขึ้นไปที่ตึกอุบัติเหตุชั้น 7 โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พอออกจากลิฟต์ก็เจอเพื่อนอีก 2 คนและคนแปลกหน้าอีกหลายคนที่เราไม่รู้จักก็ได้เข้าไปทักทายเพื่อนและทราบว่าคนแปลกหน้ากลุ่มนั้นคือญาติๆ และเพื่อนร่วมงานของกรณ์นั่นเอง

.. น้องสาวกรณ์ ได้พาฉันและเพื่อนร่วมงานอีกคนของกรณ์ เข้าเยี่ยมอาการป่วยของเพื่อน ในห้องพักผู้ป่วยอาการวิกฤต ฉันมองหาว่าเตียงไหนที่เพื่อนนอนอยู่เพราะแต่ละคนแต่ละเตียงก็ดูอาการหนัก มีผ้าก๊อตพันหัวมีสายระโยงระยางเสียบตามใบหน้าและลำตัวและน้องสาวกรณ์ ก็ชี้ไปที่เตียงที่กรณ์นอนอยู่ แล้วจึงตรงเข้าไปข้างเตียง น้องสาวฯ เอื้อมจับมือกรที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ร่างนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ที่ตามีน้ำตาไหลเยิ้มและถูกปิดด้วยพลาสเตอร์เส้นเล็กๆ

.. บรรยากาศในห้องช่างเงียบ แต่ยังดีที่ฉันได้ยินเสียงธรรมะเบาๆ ที่เขาเปิดไว้ข้างเตียงเตียงใดเตียงหนึ่ง  ฉันมองหน้าน้องสาวกรณ์ และคิดในใจว่าจะเอายังไงดี ?? ขณะที่เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มองร่างพี่ชายอย่างเศร้าสร้อย .. ฉันยื่นหลังมือฉันแตะหลังมือเพื่อนที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม สัมผัสได้ว่ามือเพื่อนอุ่นมากแม้จะดูซีดเนื่องจากเสียเลือดมากและค่อนข้างบวมที่ฝ่ามือก็ยังถูกเจาะเสียบเข็มต่อด้วยสายน้ำยา

.. ฉันจะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ และเริ่มพูดกับกรณ์ว่า .. ฉันมาเยี่ยมแล้วนะ เพื่อนในไลน์หลายคนได้ทราบข่าวประสบอุบัติเหตุ ก็รู้สึกเป็นห่วงและฝากกำลังใจมา ขอให้เพื่อนเข้มแข็งอาการดีขึ้นและหายในเร็ววัน วันนี้เป็นวันดีวันพระใหญ่ เพื่อนบางคนก็ไปทำบุญเผื่อเธอด้วย ขอให้เธอปลอดภัยแข็งแรง ดีวันดีคืน .. 

.. พอสมควรฉันจึงบอกน้องสาวของกรณ์ว่า เยี่ยมแค่นี้ก่อน เผื่อคนอื่นที่เขาอยากเยี่ยมจะได้ผลัดกันเข้ามาแทน (เพราะเขาจำกัดเวลาในการเยี่ยมแต่ละวันเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงและผู้เข้าเยี่ยมครั้งละ 2 คนเท่านั้น) ก่อนจากฉันบอกกรณ์ว่า ให้ตั้งใจอดทนถือว่าเป็นการชดใช้วิบาก จงอดทนเบิกบานและเข้มแข็ง เพื่อนเป็นคนแข็งแรงจะผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ แล้วเราแล้วเพื่อนคนอื่นๆ อาจจะได้มาเยี่ยมเพื่อนใหม่ขอให้กรณ์ดีขึ้น หายไวๆ เป็นกำลังใจให้นะ ..

.. พอออกจากห้องพักผู้ป่วย ก็ได้ยืนคุยกับน้องสาวกรณ์ สอบถามอาการทั่วไปความเห็นแพทย์บอกว่าสมองงคนปกติมีประสิทธิภาพเท่ากับ 15 แต่ของกรณ์ ขณะนี้มีแค่ 3 ซึ่งถือว่าอาการน่าเป็นห่วง ตอนนี้อยู่ได้เพราะหมอให้ยาควบคุมความดันให้เป็นปกติซึ่งหมอเสนอแนะให้ญาติไปพิจารณา/ตัดสินใจกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป (ซึ่งญาติๆ เห็นว่าในการรักษาอาจประสบความสำเร็จได้ ในการรักษาชีวิตไว้แต่สภาพร่างกายหลังการรักษาจะเป็นเช่นไร? ) ทางเลือกหนึ่งหากเห็นว่าในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไปหลังจาก หากการรักษาเป็นผลที่ปลอดภัยได้ แต่สภาพร่างกายอาจจะไม่พร้อมที่จะมีชีวิตที่เป็นปกติเหมือนเช่นคนทั่วไป หรืออาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่อาจจะมีภาระ ที่ต้องการผู้ดูแลทางครอบครัวพร้อมหรือไม่? อีกทางหนึ่งคือตัดสินใจให้แพทย์หยุดยาที่จะยื้อชีวิตไว้ แล้วบริจาคอวัยวะส่วนที่ยังใช้ได้ให้แก่ผู้ที่แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคอวัยวะก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ขอรับบริจาคได้อีกประมาณ 6 ชีวิตเป็นการใช้หนึ่งชีวิตแลกกับอีก 6 ชีวิต .. ซึ่งขณะนั้นที่คุยกับญาติๆ ของเพื่อนญาติ คงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเลือกประการหลังมากกว่า ..

.. น้องสาวกรณ์ เรื่องเล่าเมื่อฉันถามถึงเหตุการณ์ที่กรตกลงมาจากหลังคาบ้านว่า พี่ชายของเธอมีความเป็นห่วงหลานจึงรวบรวมญาติพี่น้องว่าให้ไปช่วยกันเปลี่ยนหลังคาที่บ้านหลานในอำเภอป่าแดด เชียงราย ซึ่งในภาพที่เพื่อนเคยส่งมาให้ชมก่อนที่เพื่อนจะตกลงมาจากหลังคานั้นมุงด้วยสังกะสี แต่สภาพข้างบนหลังคาอาจจะมีอากาศที่ร้อนมากหรืออาจจะเกิดอาการวูบเป็นลมจึงร่วงตกลงมาจากหลังคาเอาหลังกระแทกพื้นอย่างแรง จนกระอักอาเจียนเป็นเลือดตลอดทางที่ญาติพาตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกแล้วญาติก็ทำเรื่องขอส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์เชียงราย ซึ่งสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ .. 

.. เวลาประมาณเกือบทุ่ม ฉันลาญาติๆ เพื่อนมีน้องสาว, ภรรยาและลูกสาวอีก 3 คนของกร กลับบ้านก่อน มีโอกาสเพื่อนคนอื่นๆ คงจะได้มาเยี่ยมอีก..

.. ฉันและเพื่อนๆอีก 2 คนก็ได้แยกย้ายกันที่หน้าลิฟท์ เมื่อถึงบ้านได้ไม่นานเพื่อนอีกคนก็ส่ง LINE มาบอกว่ากรณ์ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเวลา 20.30 น.โดยภรรยากรณ์ เป็นผู้ส่งข่าวให้ทราบ เพื่อนในกลุ่มไลน์หลายคนเศร้าเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ฉันได้ไปเยี่ยมเหมือนเป็นการไปส่งเพื่อนออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการอำลากันครั้งสุดท้ายในการมีชีวิตของเรา  

.. ในการพบกันครั้งนี้ฉันรู้สึกเศร้าสะเทือนใจครั้งแรกที่ได้พบกันในห้องผู้ป่วยนั้น แต่เมื่อฉันได้พูดกับกรณ์ ฉันรู้สึกเบิกบานแจ่มใสเหมือนเราส่งพลังความเข้มแข็งให้กันและกัน ฉันคิดว่าเพื่อนคงจะได้ยินสิ่งที่ฉันพูดทุกสิ่ง ฉันคิดว่าการจากไปครั้งนี้เพื่อนได้ตัดสินใจจากไปอย่างว่างเบาและกล้าหาญ ฉันคิดว่าเพื่อนได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีแน่นอน และที่สำคัญวันนั้นเป็นวันมาฆบูชา เพื่อนจากไปในคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์  ฉันจึงไม่เสียใจ เพราะฉันและเพื่อนอีก 2 คนได้ไปทำหน้าที่เพื่อนที่ดีที่สุด คือเป็นตัวแทนเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมดนำความปรารถนาดี, ความรักความอบอุ่นห่วงใยไปกล่าวอำลา ส่งพลังความเข้มแข็งให้กรณ์ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจออกเดินทางไกลโดยลำพัง เมื่อเวลา 20.30 น.ของคืนมาฆบูชา อัง.19-2-62 


.. ในการมีชีวิต เราไม่เคยรู้ว่าวันใดคือวันสุดท้ายแห่งการมีชีวิต ..

.. เพื่อน จะยังอยู่ในความทรงจำที่ดีของเราตลอดไป ..