วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

.. ไดอารี่ วัยเยาว์-2..+*

(เข้าชม 301 ครั้ง)

วันสองวันมานี้ ฉันแทบจะทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย
นอกจากการอัพบล๊อค ที่ฉันรู้ว่า มันเป็นการระบายความคิด
ความรู้สึก ออกมาจากหัว มิฉะนั้นมันคงอึดอัด และวนเวียนไปมากกว่านี้..
ฉันรู้ว่า ความรู้สึกต่าง ๆ มันไม่เที่ยง

สักวันหนึ่ง มันจะจางคลาย .. ก็ใช่ ภาวะเช่นนี้ ฉันก็เคยผ่านมาแล้ว
มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก .. เพียงแต่อาจจะรู้สึกดิ้นรนทรมาณอยู่ภายใน
แต่เมื่อได้ระบายมันออกมา มันก็ดีขึ้นตั้งเยอะ และฉันก็จำได้ว่าความรู้สึก
ทรมาณในความรัก มันแย่กว่านี้ ทรมาณกว่านี้ ก็เคยเป็นมาแล้ว..
ช่างเถอะ !! ถึงอะไร งานการไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็คิดเสียว่า ฉันเป็นศิลปิน
ที่ทำงานตามอารมณ์ก็แล้วกัน.. แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ง่ายนัก ที่จะคิดเสียอย่างงี้..





ฉันคิดว่า คงมีใครบางคนสนใจเรื่องราวชีวิตของฉันบ้าง รู้นะ ว่าบางคนแอบมาอ่าน
เอาเถอะ ..!! แม้ว่า ชีวิตฉันจะเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ที่คุณอยากอ่าน ก็ยินดี
แต่คงต้องรำคาญนิดหน่อยนะ เพราะเป็นหนังสือ ที่เขียนไม่เคยจบ
และอาจจะนำมาซึ่งความสงสัย...

.............  .....        ..

ฉันเป็นคนบ้านนอกนะ ที่ฉันก็ภูมิใจ เพราะที่บ้านฉันมีอะไรต่ออะไรที่ กทม.ไม่มี
ตอนเป็นเด็กหญิงชั้นประถม ลานบ้านฉันมีต้นมะขามต้นใหญ่มาก ขนาดรอบต้นของมัน
ต้องใช้ผู้ใหญ่ถึง 3 คนจับมือกันจึงจะโอบรอบ

พ่อผูกชิงช้าไว้ใต้ต้น ที่รองนั่งทำด้วยวงล้อยางมอเตอร์ไซด์เก่า
ช่วงเวลาที่ฉันชอบต้นมะขามมากคือ ช่วงเปิดเทอม เพราะต้นมะขามจะแตกใบใหม่
สีเขียวอ่อนสวยงามสดชื่น ดอกมะขามร่วงหล่นโปรยปรายใต้ต้น

ฉันนั่งเล่นบนลานดินกับเพื่อน ๆ เราเล่นอะไรหน่ะเหรอ
หม้อข้าวหม้อแกงนั่นแหละ เรื่องเล่นของเด็กผู้หญิง เอาใบไม้มาทำเส้นหมี่ คิคิ..มีตะเกียบ
ถ้วย จาน ชาม หม้อ กะทะ ก็เป็นพวกกะลาเก่า ๆ และใบไม้ ลูกหิน
แล้วเราก็เล่นตี่จับ กระโดดหนังยาง และอีกหลายอย่าง บางอย่างเราเล่นเป็นแต่ไม่รู้ชื่อมัน

ใกล้ ๆ ต้นมะขาม มีต้นส้มโอโบราณ ลูกเท่ากำปั้น ลูกมันไม่เคยกินได้เลย แต่เราก็ไม่ตัดมัน
เพราะเราเอาไว้ให้เป็นบ้านของดอกเอื้องขี้หมา หรือคนภาคกลางเรียกว่ากาเรการ่อน พุ่มใหญ่
ใกล้กันมีต้นมะม่วง 3-4 ต้น อยู่รายรอบมีมะม่วงงา มะม่วงป้อม มะม่วงสามปี (ชื่อท้องถิ่น)
มะม่วงแก้มแดง แล้วยังมีมะม่วงแก้ว ฉันเกิดมาฉันก็เห็นมันเลย จนฉันเป็นผู้ใหญ่ มันก็ค่อย
ถูกโค่นไปด้วยความชรา ทีละต้น ๆ รวมทั้งต้นมะขามต้นนั้นด้วย
แม่บอกว่า เราต้องโค่นมัน เพราะว่าลำต้นมันกลวงตรงกลาง เพราะเป็นโรค และมันก็ผุ
ด้วยความชรานั่นเอง ฉันอาลัยอาวรณ์ต้นมะขาม ราวกับว่า เพื่อนรักกำลังตายจากไป....

แต่ไม่นานนัก เด็ก ๆ อย่างฉันที่มีอะไรให้เล่นมากมาย ก็ลืมความเศร้านั้นได้อย่างง่ายดาย
ฉันชอบเล่นห้อยโหนกิ่งมะม่วง เพราะฉันอยากเป็นนักยิมนาสติก
จึงจำท่าผาดโผนเหล่านั้นมาจากทีวี ฉันปีนต้นไม้ที่มีกิ่งเยอะ ๆ หน่อยได้
แต่เพื่อนสนิทของฉันดูเหมือนจะเก่งกว่าทุกอย่าง ฉันเรียกเธอว่า "พี่มาลี"
เพราะเธอแก่กว่าฉันปีนีง  และเราก็เล่น และโตมาด้วยกัน

ฉันและพี่มาลี มักจะปีนขึ้นไปกินฝรั่งขี้นกลูกเล็ก ๆ บนต้นมัน
ข้างในของมันจะมีสีแดง และหอมหวานมาก แล้วยังมีต้นลูกหว้า กระท้อน
มะเฟืองเปรี้ยว ที่แม่มักให้เอามาฝานกินกับน้ำปลา แม่บอกว่า มันช่วยให้ไม่เป็นนิ่ว
อย่างใครจะไม่อยากกิน ก็ควรกินปีละลูกก็ยังดี แม่สอนอย่างงั้น
แต่จนเดี๋ยวนี้นานหลายปีที่ฉันไม่ได้กินมะเฟือง..
ลานบ้านเรา มีต้นสะเดาต้นใหญ่ ที่ฉันชอบนั่งมองมันเวลานั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะขาม
ฉันหลงรักลวดลายสวยงามของเปลือกสะเดา กับลีลาทรงต้นเหมือนบอนไซไม้ดัดนั้น

ใต้ต้นสะเดา จะมีดอกพุดซ้อน บ้านเราเรียกเก็ดถะหวา ซึ่งออกดอกสีขาว ดอกใหญ่


คืนนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วฉันจะมาเล่าต่อ..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น